<html> tags cannot be used outside of normal pages.

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เนื้อเรื่อง/กำเนิดโลกและเผ่าพันธุ์ ฉบับสาวกแห่งอาทรัม"

จาก อสุรา เกมส์ออนไลน์ ฟอร์มยักษ์ - สารานุกรม
Jump to navigationJump to search
 
 
แถว 3: แถว 3:
 
นานแสนนานมาแล้ว...
 
นานแสนนานมาแล้ว...
  
แรกเริ่มแต่เดิมทีนั้น โลกมีแต่เพียงความมืดมิดและว่างเปล่า ปราศจากสรรพสิ่งใด ไม่มีแผ่นฟ้า พื้นน้ำ หรือแม้กระทั้งแผ่นดิน เป็นแค่มวลอากาศที่ไร้ชีวิตชีวา
+
แรกเริ่มแต่เดิมทีนั้น โลกมีแต่เพียงความมืดมิดและว่างเปล่า ปราศจากสรรพสิ่งใด ไม่มีแผ่นฟ้า พื้นน้ำ หรือแม้กระทั้งแผ่นดิน เป็นแค่มวลอากาศที่ไร้ชีวิตชีวา มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส รู้สึกเบื่อต่อความว่างเปล่าและกาลเวลาอันเป็นนิรันดร์ จึงได้ชักชวนบรรดาเทพทั้งหลายซึ่งนำโดย เทพีแห่งลม เวนทัส ,เทพแห่งปฐพี เทอร์ร่าห์ และเทพีแห่งน้ำ อควา ยกเว้นแค่ องค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ผู้ที่เป็นน้องสาวฝาแฝดของมหาเทวีแห่งแสง ลูซิส และมีพลังเทียบเท่า เพียงองค์เดียวที่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย นางรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ดีอยู่แล้ว  
มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส รู้สึกเบื่อต่อความว่างเปล่าและกาลเวลาอันเป็นนิรันดร์ จึงได้ชักชวนบรรดาเทพทั้งหลายซึ่งนำโดย เทพีแห่งลม เวนทัส ,เทพแห่งปฐพี เทอร์ร่าห์ และเทพีแห่งน้ำ อควา
 
ยกเว้นแค่ องค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ผู้ที่เป็นน้องสาวฝาแฝดของมหาเทวีแห่งแสง ลูซิส และมีพลังเทียบเท่า เพียงองค์เดียวที่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย นางรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ดีอยู่แล้ว แต่
 
  
  
กระนั้นเทพองค์อื่นหาได้สนใจไม่
+
แต่กระนั้นเทพองค์อื่นหาได้สนใจไม่ ขบวนการสร้างความวุ่นวายนำโดย มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส ซึ่งนางมีนิสัยที่ชอบสร้างสรรค์สรรพสิ่ง ไม่หยุดนิ่ง แต่ก็เหนื่อยหน่ายง่าย เรื่องมาก ต่างกับน้องสาวฝาแฝดของนาง องค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ซึ่งมีนิสัย สุขุม เยือกเย็น และไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร
ขบวนการสร้างความวุ่นวายนำโดย มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส ซึ่งนางมีนิสัยที่ชอบสร้างสรรค์สรรพสิ่ง ไม่หยุดนิ่ง แต่ก็เหนื่อยหนายง่าย เรื่องมาก
+
องค์มหาเทวี ลูซิส ได้ตรัสขึ้นว่า "จงมีแสงสว่าง" ลูซิส มอบแสงสว่างให้กับโลก โดยผิดใจกันกับ มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ทุกวัน องค์มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส จะสู้กับองค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ช่วงที่ลูซิสชนะโลกจะเป็นกลางวัน ถ้าแพ้จะเป็นกลางคืน ตอนกลางคืนจะมองเห็นเศษซากที่บาดเจ็บของลูซิสส่องประกายเต็มท้องฟ้า(หมู่ดาว) เนื่องจากมหาเทวีแห่งแสง ลูซิส กับ มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม เป็นเทพที่เป็นอมตะจึงไม่สามารถปลิดชีพกันได้
ต่างกับน้องสาวฝาแฝดของนาง องค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ซึ่งมีนิสัย สุขุม เยือกเย็น และไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร
+
การต่อสู้ใช้ดำเนินไปต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งวันหนึ่งที่อาทรัมนั้นเริ่มสนใจโลกที่สร้างใหม่มากขึ้น และเหนื่อยกับการสู้รบกับลูซิสผู้มีพลังเท่าเทียมกัน จึงตกลงกันว่าจะแบ่งช่วงเวลาดูแลโลกกัน โดยลูซิสจะดูแล 14 ชั่วโมง และ อาทรัมจะดูแล 10 ชั่วโมง เหล่าบรรดาเทพที่เหลือก็ได้ช่วยกันสร้างโลกให้สมบรูณ์ เทอร์ร่าห์ เนรมิตผืนดินยาวสุดลูกหูลูกตา และสร้างเหล่าพรรณพืช ต้นไม้ ใบหญ้า อควา เนรมิตผืนน้ำ และสร้างเหล่าหมู่สัตว์น้ำ เวนทัส แบ่งร่างออกเป็นสี่ เคลื่อนที่ไปสี่ทิศทางอย่างไม่รู้จบ เติมเต็มจิตวิญญาณให้กับก้อนหิน ต้นไม้ใบหญ้า อิกนัส ได้จุดไฟ เผาหลอมดิน ก้อนหินและต้นไม้ เกิดเป็นร่างของเหล่าสรรพสัตว์ โดยมีจิตวิญญาณที่เวนทัสมอบให้
  
องค์มหาเทวี ลูซิส ได้ตรัสขึ้นว่า "จงมีแสงสว่าง" ลูซิส มอบแสงสว่างให้กับโลก โดยผิดใจกันกับ มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม
 
ทุกวัน องค์มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส จะสู้กับองค์มหาแห่งความมืด อาทรัม ช่วงที่ลูซิสชนะ โลกจะเป็นกลางวัน ถ้าแพ้จะเป็นกลางคืน ตอนกลางคืนจะมองเห็นเศษซาก
 
ที่บาดเจ็บของลูซิสส่องประกายเต็มท้องฟ้า(หมู่ดาว) เนื่องจากมหาเทวีแห่งแสง ลูซิส กับ มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม เป็นเทพที่เป็นอมตะจึงไม่สามารถปลิดชีพกันได้
 
  
การต่อสู้ใช้ดำเนินไปต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งวันหนึ่งที่อาทรัมนั้นเริ่มสนใจโลกที่สร้างใหม่มากขึ้น
+
แต่ลูซิสผู้รู้สึกว่าโลกยังขาดอะไรบางอย่าง โลกที่มีแผ่นฟ้า พื้นน้ำ แผ่นดิน "ถึงมันจะมีวัฎจักรของมันแต่มันก็เงียบเหงาจนเกินไป ข้ารู้สึกว่ามันไม่ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไรนัก" จึงได้ปรึกษากับเหล่าเทพองค์อื่น ว่าควรทำอย่างไรกับโลกที่พวกเขาได้สร้างขึ้น อาทรัมจึงเสนอว่า "ด้วยพลังอำนาจและสติปัญญาของเหล่าทวยเทพอย่างพวกเรา ถ้าเราสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาขึ้นมาให้อาศัยในโลก ก็น่าจะทำให้โลกใบนี้มีอะไรน่าสนใจขึ้นมาบ้าง" เหล่าเทพทั้งสี่จึงได้สร้าง "เอลฟ์" โดยจำลองแบบมาจากพวกตนเอง และเป็นเอลฟ์ตนแรกที่ได้กำเนิดขึ้นบนโลก ซึ่งเหล่าเทพก็ได้มอบหน้าที่ให้แก่ เอลฟ์ ปกครองโลกในฐานะตัวแทนเทพ
และเหนื่อยกับการสู้รบกับลูซิสผู้มีพลังเท่าเทียมกัน จึงตกลงกันว่าจะแบ่งช่วงเวลาดูแลโลกกัน โดยลูซิสจะดูแล 14 ชั่วโมง และ อาทรัมจะดูแล 10 ชั่วโมง
 
เหล่าบรรดาเทพที่เหลือก็ได้ช่วยกันสร้างโลกให้สมบรูณ์
 
เทอร์ร่าห์ เนรมิตผืนดินยาวสุดลูกหูลูกตา และสร้างเหล่าพรรณพืช ต้นไม้ ใบหญ้า
 
อควา เนรมิตผืนน้ำ และสร้างเหล่าหมู่สัตว์น้ำ
 
เวนทัส แบ่งร่างออกเป็นสี่ เคลื่อนที่ไปสี่ทิศทางอย่างไม่รู้จบ เติมเต็มจิตวิญญาณให้กับก้อนหิน ต้นไม้ใบหญ้า
 
อิกนัส ได้จุดไฟ เผาหลอมดิน ก้อนหินและต้นไม้ เกิดเป็นร่างของเหล่าสรรพสัตว์ โดยมีจิตวิญญาณที่เวนทัสมอบให้
 
  
  
แต่ลูซิสผู้รู้สึกว่าโลกยังขาดอะไรบางอย่าง โลกที่มีแผ่นฟ้า พื้นน้ำ แผ่นดิน "ถึงมันจะมีวัฎจักรของมันแต่มันก็เงียบเหงาจนเกินไป ข้ารู้สึกว่ามันไม่ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไรนัก"
+
ต่อมาเหล่าเทพทั้งสี่ก็ได้สร้าง "มังกร" ขึ้นมาโดยมีอาทรัมเป็นผู้แนะนำ "มังกร"ร่างกายที่มีผิวหนังแข็งประดุจเกราะเหล็ก ดวงตากลมโต เขี้ยวอันแหลมคมและพละกำลังอันมหาศาล
จึงได้ปรึกษากับเหล่าเทพองค์อื่น ว่าควรมาอย่างกับโลกที่พวกเขาได้สร้างขึ้น
+
แต่ลูซิสนั้นรังเกียจรูปร่างของมังกร นางจึงขับไล่พวกมังกรลงไปยังโลก โดยให้อาศัยในพื้นที่ทางเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น
อาทรัมจึงเสนอว่า "ด้วยพลังอำนาจและสติปัญญาของเหล่าทวยเทพอย่างพวกเรา ถ้าเราสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาขึ้นมาให้อาศัยในโลก ก็น่าจะทำให้โลกใบนี้มีอะไรน่าสนใจขึ้นมาบ้าง"
+
การกระทำครั้งนั้นทำให้อาทรัมไม่พอใจในความเอาแต่ใจของลูซิส นางจึงได้ให้ความช่วยเหลือแก่เหล่า "มังกร" อาทรัมมอบปัญญาอันเฉลียวฉลาดให้กับพวกเขา ทำให้พวกมังกรต่างจากสัตว์ทั่วๆไป พวกเขามีจินตนาการ มีความอยาก และมีความสามารถในการสร้างสรรสิ่งใหม่ๆ เหล่ามังกรจึงเคารพนับถืออาทรัมเป็นมหาเทวีให้กำหนดเหล่ามังกร
เหล่าเทพทั้งสี่จึงได้สร้าง "เอลฟ์" โดยจำลองแบบมาจากพวกตนเอง และเป็นเอลฟ์ตนแรกที่ได้กำเนิดขึ้นบนโลก
 
ซึ่งเหล่าเทพก็ได้มอบหน้าที่ให้แก่ เอลฟ์ ปกครองโลกในฐานะตัวแทนเทพ
 
 
 
 
 
ต่อมาเหล่าเทพทั้งสี่ก็ได้สร้าง "มังกร" ขึ้นมาโดยมีอาทรัมเป็นผู้แนะนำ
 
"มังกร"ร่างกายที่มีผิวหนังแข็งประดุจเกราะเหล็ก ดวงตากลมโต เขี้ยวอันแหลมคมและพละกำลังอันมหาศาล
 
 
 
แต่ลูซิลนั้นรังเกลียดรูปร่างของมังกร นางจึงขับไล่พวกมังกรลงไปยังโลก โดยให้อาศัยในพื้นที่ทางเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น
 
 
 
การกระทำครั้งนั้นทำให้อาทรัมไม่พอใจในความเอาแต่ใจของลูซิล จึงได้ให้ความช่วยเหลือแก่เหล่า "มังกร"
 
อาทรัมมอบปัญญาอันเฉลียวฉลาดให้กับพวกเขา ทำให้พวกมังกรต่างจากสัตว์ทั่วๆไป พวกเขามีจินตนาการ มีความอยาก และมีความสามารถในการสร้างสรรสิ่งใหม่ๆ เหล่ามังกรจึงเคารพนับถืออาทรัมเป็นมหาเทวีให้กำหนดเหล่ามังกร
 
  
  
 
เทพองค์อื่นเมื่อเห็นเทวีแห่งความมืดสร้างสิ่งน่าสนใจให้กับมังกรขึ้นมา ก็เลยทำตามประสงค์ของตัวเองขึ้นบ้าง
 
เทพองค์อื่นเมื่อเห็นเทวีแห่งความมืดสร้างสิ่งน่าสนใจให้กับมังกรขึ้นมา ก็เลยทำตามประสงค์ของตัวเองขึ้นบ้าง
 
+
เทอร์ร่าห์ เนรมิตสร้าง ชาวออค ผู้มีร่างกายแข็งแกร่งประดุจหินผา สร้างชาวสมิงผู้มีชีวิตผูกผันกับผืนดินและทุ่งหญ้า เวนทัส สร้างชาวเอล์ฟ ผู้งดงาม คล่องแคล่ว และยังได้แบ่งพลังกว่าครึ่งของนางให้กับพวกเขาเหล่านั้นด้วย อิกนัส เริ่มแรกไม่กล้าใช้พลังของตนสร้างอะไรขึ้นมา จึงได้ไปขอยืมพลังของเทวีแห่งความมืดมากึ่งนึง ให้กำเนิดเป็นกอบลินขึ้นมา แต่อิกนัสไม่พอใจกับกอบลินที่รูปร่างแคระแกร็น และมีผิวกายภายนอกอัปลักษณ์เยี่ยงมังกร เขาจึงใช้พลังของตัวเองสร้างคนแคระขึ้นมาอีก และมอบพลังแห่งไฟรวมไปถึงปัญญาแห่งการประดิษฐ์ให้กับพวกเขา
เทอร์ร่าห์ เนรมิตสร้าง ชาวออค ผู้มีร่างกายแข็งแกร่งประดุจหินผา สร้างชาวสมิงผู้มีชีวิตผูกผันกับผืนดินและทุ่งหญ้า
 
เวนทัส สร้างชาวเอล์ฟ ผู้งดงาม คล่องแคล่ว และยังได้แบ่งพลังกว่าครึ่งของนางให้กับพวกเขาเหล่านั้นด้วย
 
อิกนัส เริ่มแรกไม่กล้าใช้พลังของตนสร้างอะไรขึ้นมา จึงได้ไปขอยืมพลังของเทวีแห่งความมืดมากึ่งนึง ให้กำเนิดเป็นกอบบลินขึ้นมา
 
แต่อิกนัสไม่พอใจกับกอบบลินที่รูปร่างแคระแกรน และมีผิวกายภายนอกอัปลักษณ์เยี่ยงซอร์เรี่ยน เขาจึงใช้พลังของตัวเองสร้างคนแคระขึ้นมาอีก
 
และมอบพลังแห่งไฟรวมไปถึงปัญญาแห่งการประดิษฐ์ให้กับพวกเขา
 
 
 
 
แต่ อควา หามิได้สนใจในการสร้างผู้มีปัญญาใดๆ ขึ้นมาเลย
 
แต่ อควา หามิได้สนใจในการสร้างผู้มีปัญญาใดๆ ขึ้นมาเลย
 +
ในขณะที่เทพทุกๆ องค์กำลังเพลิดเพลินกับการสร้างสิ่งมีปัญญานั้น ลูซิส ผู้เหนื่อยหน่าย นางตระเวนดูผลงานของเทพองค์ต่างๆ จดจำข้อดี ข้อเสียของแต่ละเผ่ามา และพยายามจะสร้าง ผู้สมบูรณ์แบบ ตามแบบฉบับของนางเอง
 +
นางปั้นร่างของพวกเขาขึ้นมาจากดินของเทอร์ร่าห์ มอบความสามารถแห่งการประดิษฐ์ด้วยสะเก็ดไฟแห่งอิกนัส แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาทำได้เพียงเครื่องมือจากก้อนหินง่ายๆ นางจึงมอบจิตวิญญาณด้วยเสี้ยวหนึ่งของเวนทัส ทำให้พวกเขานั้นจำต้องดำรงวิญญาณเอาไว้ด้วยสายลม ชุบเลี้ยงพวกเขาด้วยร่างของเทพีแห่งน้ำ ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องผูกพันกับสายน้ำ นางมอบปัญญาอันแหลมคมแบบที่ "มังกร" มี ด้วยพลังของเทวีแห่งความมืด
 +
และท้ายที่สุด นางทำสิ่งที่ไม่พึงทำที่สุด นางใส่ความเป็นนางเองลงในตัวพวกเขา ทำให้พวกเขานั้นมีนิสัยเหมือนกับนาง
  
ในขณะที่เทพทุกๆ องค์กำลังเพลินกับการสร้าง สิ่งมีปัญญานั้น
 
ลูซิส ผู้เหนื่อยหนาย นางตระเวรดูผลงานของเทพองค์ต่างๆ
 
จดจำข้อดี ข้อเสียของแต่ละเผ่ามา และพยายามจะสร้าง ผู้สมบูรณ์แบบ ตามแบบฉบับของนางเอง
 
 
นางปั้นร่างของพวกเขาขึ้นมาจาก ดินของเทอร์ร่าห์
 
มอบความสามารถแห่งการประดิษฐ์ด้วยสะเก็ดไฟแห่งอิกนัส แต่นั้นก็ทำให้พวกเขาทำได้เพียงเครื่องมือจากก้อนหินง่ายๆ
 
มอบจิตวิญญาณด้วยเสี้ยวหนึ่งของเวนทัส ทำให้พวกเขานั้นจำต้องดำรงวิญญาณเอาไว้ด้วยสายลม
 
ชุบเลี้ยงพวกเขาด้วยร่างของ เทพีแห่งน้ำ ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องผูกพันกับสายน้ำ
 
นางมอบปัญญาอันแหลมคมแบบที่"มังกร"มี ด้วยพลังของเทวีแห่งความมืด
 
 
และท้ายที่สุด นางทำสิ่งที่ไม่พึงทำที่สุด
 
นางใส่ความเป็นนางเองลงในตัวพวกเขา ทำให้พวกเขานั้นมีนิสัยเหมือนกับนาง
 
 
 
มนุษย์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา
 
และเพราะ ลูซิสนั้นรักสนุก นางจึงทำให้มนุษย์นั้นมีอายุที่สั้น เพื่อที่นางจะได้ดูมนุษย์รุ่นใหม่ๆ ที่ทำอะไรแปลกๆไปจากบรรพบุรุษได้ไวๆ
 
 
 
เทพแต่ละองค์ ต่างอุ้มชู ประคบประงมผลงานการสร้างของตน จนทำโลกเริ่มเสียสมดุล และบ่อยครั้งเหล่าเทพก็กระทบกระทั่งกันเอง
 
จนท้ายที่สุด พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแทรงกับเรื่องต่างๆผลโลกอีก...
 
  
ซึ่ง เอลฟ์ เรืองอำนาจและปกครองโลกในฐานะตัวแทนเทพ จนกระทั่งเหล่ามังกรได้สร้างเสริมกำลัง ขยายอำนาจจนทั่วทวีปทางเหนือ กลายเป็นอาณาจักรขั่วอำนาจใหญ่ "ซอร์เรี่ยน"
+
มนุษย์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา และเนื่องเพราะ ลูซิสนั้นรักสนุก นางจึงทำให้มนุษย์นั้นมีอายุสั้น เพื่อที่นางจะได้ดูมนุษย์รุ่นใหม่ที่ทำอะไรแปลกไปจากบรรพบุรุษได้ในเวลาอันแสนสั้น
  
ต่อมาสองขั้วอำนาจ "เอลฟ์" ที่อยู่ทางใต้ และ "ซอร์เรี่ยน"ที่อยู่ทางเหนือ ได้ขยายอิทธิพลในโลกได้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกัน ได้เกิดการปะทะกัน
 
ทำให้โลกช่วงนั้นเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ลูซิล ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหล่าเอลฟ์ ทำให้อาทรัมไม่พอใจจนกลายเป็นสงครามระหว่างเทพทั้งสองขึ้น
 
  
 +
เทพแต่ละองค์ ต่างอุ้มชู ประคบประหงมผลงานการสร้างของตน จนทำโลกเริ่มเสียสมดุล และบ่อยครั้งเหล่าเทพก็กระทบกระทั่งกันเอง จนท้ายที่สุด พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซงกับเรื่องต่างๆ บนโลกอีก...
 +
ในเวลานั้น เอลฟ์ เรืองอำนาจและปกครองโลกในฐานะตัวแทนเทพ จนกระทั่งเหล่ามังกรได้สร้างเสริมกำลัง ขยายอำนาจจนทั่วทวีปทางเหนือ กลายเป็นอาณาจักรขั้วอำนาจใหญ่ "ซอร์เรี่ยน"
 +
ต่อมาสองขั้วอำนาจ "เอลฟ์" ที่อยู่ทางใต้ และ "ซอร์เรี่ยน"ที่อยู่ทางเหนือ ได้ขยายอิทธิพลในโลกได้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกัน ได้เกิดการปะทะกัน ทำให้โลกช่วงนั้นเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ลูซิส ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหล่าเอลฟ์ ทำให้อาทรัมไม่พอใจจนกลายเป็นสงครามระหว่างเทพทั้งสองขึ้น
  
สงครามดำเนินต่อเนื่องยาวนาน เพราะเทวีทั้งสองต่างก็เป็นอมตะทั้งคู่ จนกระทั่ง ลูซิส ได้คิดวิธีการเอาชนะ อาทรัม ได้
 
ในการต่อสู้ครั้งหนึ่ง ลูซิล เอาชนะ อาทรัม และได้แบ่งร่างของนางออกเป็นเจ็ดส่วน แลัวทิ้งลงแผ่นดิน และทะเล ทำให้ อาทรัม ถูกกระจายพลังออกจนคืนชีพไม่ได้
 
  
จากการปะทะของเหล่าเทพด้วยกันครั้งนี้ อควา ได้พูดกับเหล่าเทพด้วยกันว่า
+
สงครามดำเนินต่อเนื่องยาวนาน เนื่องด้วยเทวีทั้งสองต่างก็เป็นอมตะ จนกระทั่ง ลูซิส ได้คิดวิธีการเอาชนะ อาทรัม ได้ ในการต่อสู้ครั้งหนึ่ง ลูซิส เอาชนะ อาทรัม และได้แบ่งร่างของนางออกเป็นเจ็ดส่วน ทิ้งลงแผ่นดินและทะเล ทำให้ อาทรัม ถูกกระจายพลังออกจนคืนชีพไม่ได้
"ที่ตัวข้าไม่สร้างผู้ทรงปัญญาเหมือนอย่างพวกท่านทำ ก็เพราะข้าคิดไว้แล้วว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างเหล่าเทพ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ข้าของให้พวกท่านเลิกยุ่งกับเผ่าพันธ์บนโลกเสีย
+
จากการปะทะของเหล่าเทพด้วยกันครั้งนี้ อควา ได้พูดกับเหล่าเทพด้วยกันว่า "ที่ตัวข้าไม่สร้างผู้ทรงปัญญาเหมือนอย่างพวกท่านทำ ก็เพราะข้าคิดไว้แล้วว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างเหล่าเทพ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ข้าของให้พวกท่านเลิกยุ่งกับเผ่าพันธุ์บนโลกเสีย เพื่อเป็นการมิให้เกิดเหตุการณ์ต่อสู้ระหว่างเทพขึ้นอีก" จากคำพูดของเทวี อควา พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซงกับเรื่องต่างๆบนโลกอีก...
เพื่อเป็นการมิให้เกิดเหตุการณ์ต่อสู้ระหว่างเทพขึ้นอีก" จากคำพูดของเทวี อควา พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแทรงกับเรื่องต่างๆบนโลกอีก...
 
  
  
"ซอร์เรี่ยน"เมื่อขาดการช่วยเหลือจากอาทรัมจึงต้องถอยล้นไป แต่สงครามครั้งนั้นก็ทำให้เผ่าพันธ์เอลฟ์เหลือจำนวนน้อยมาก
+
"ซอร์เรี่ยน" เมื่อขาดการช่วยเหลือจากอาทรัมจึงต้องถอยร่นไป แต่สงครามครั้งนั้นก็ทำให้เผ่าพันธุ์เอลฟ์เหลือจำนวนน้อยมาก เอลฟ์ตายเกือบหมดในสงคราม ส่วนที่เหลืออยู่ก็ตัดสินใจทำตัวเหมือนเหล่าเทพ หลบเร้นหนีไปยังที่ที่ไม่มีใครพบ
พวกเอลฟ์ตายเกือบหมดในสงคราม ส่วนที่เหลืออยู่ก็ตัดสินใจทำตัวเหมือนเหล่าเทพ หลบเร้นหนีไปยังที่ที่ไม่มีใครพบ
 
  
  
เมื่อขาดขั่วอำนาจใหญ่ทางใต้แล้ว ออค จึงเรืองอำนาจต่อจากเอลฟ์ ด้วยที่มีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าใคร และมีจำนวนมาก
+
เมื่อขาดขั้วอำนาจใหญ่ทางใต้แล้ว ออค จึงเรืองอำนาจต่อจากเอลฟ์ ด้วยที่มีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าใคร และมีจำนวนมาก อาณาจักรออคโบราณ จึงกำเนิดขึ้น แล้วเผ่าพันธุ์ใดๆ ที่อยู่ทางใต้ก็ตกอยู่ใต้การปกครองของ ออค ทั้งสิ้น หนึ่งในนั้นก็คือ "มนุษย์" ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยที่กระจัดกระจายกันอยู่ ซึ่งบางส่วนก็ถูกจับนำมาเป็นทาสใช้แรงงานให้แก่พวกออค
อาณาจักรออคโบราณ จึงกำเนิดขึ้น แล้วเผ่าพันธ์ใดๆที่อยู่ทางใต้ก็ตกอยู่ใต้การปกครองของ ออค ทั้งสิ้น
 
หนึ่งในนั้นก็คือ "มนุษย์" ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยที่กระจัดกระจายกันอยู่ ซึ่งบางส่วนก็ถูกจับนำมาเป็นทาสใช้แรงงานให้แก่พวกออค
 
  
  
อาณาจักรออคนั้นรุ่งเรื่องและขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว แต่เวลารุ่งเรื่องของออคก็มีเวลาไม่นานนัก
+
อาณาจักรออคนั้นรุ่งเรืองและขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว แต่เวลารุ่งเรืองของออคก็มีเวลาไม่นานนัก เมื่อเหล่ากองทัพของ"ซอร์เรี่ยน"ที่ถอยร่นไปในสงครามครั้งก่อนได้กลับมาเข้ารุกรานอาณาจักรทางใต้อีกครั้ง ก่อนต่อสู้กินเวลายืดเยื้อยาวนาน เพราะอาณาจักรออคมีกำลังเข้มแข็งมาก ทำให้กองทัพของ"ซอร์เรี่ยน"ต้องแตกพ่ายถอยกลับไปอีกครั้ง
เมื่อเหล่ากองทัพของ"ซอร์เรี่ยน"ที่ถอยล้นไปในสงครามครั้งก่อนได้กลับมาเข้ารุกรานอาณาจักรทางใต้อีกครั้ง
 
ก่อนต่อสู้เกินเวลานานยืดเยื้อยาวนาน เพราะอาณาจักรออคมีกำลังเข้มแข็งมาก ทำให้กองทัพของ"ซอร์เรี่ยน"ต้องแตกพ่ายถอยกลับไปอีกครั้ง
 
  
  
แต่อาณาจักรออคก็เสียหายไปไม่น้อย อีกทั้งประสบกับโรคระบาดและฤดูกาลที่แห้งแล้งยาวนาน จึงทำให้พวกออคอ่อนแอ่ลงมาก
+
แต่อาณาจักรออคก็เสียหายไปไม่น้อย อีกทั้งประสบกับโรคระบาดและฤดูกาลที่แห้งแล้งยาวนาน จึงทำให้พวกออคอ่อนแอลงมาก เวลานั้นเองได้มี "มนุษย์"ผู้หนึ่งได้รวบรวมสมัครพรรคพวก จนเกิดเป็นกองกำลังปลดปล่อยอิสระภาพ ได้เข้าตีอาณาจักรออคจนแตกพ่ายไป จนต้องหนีหายไปอย่างลึกลับ
เวลานั้นเองได้มี "มนุษย์"ผู้หนึ่งได้รวบรวมสมัครพรรคพวก จนเกิดเป็นกองกำลังปลดปล่อยอิสระภาพ
+
แต่ว่ากันว่าแท้จริงแล้วที่อาณาจักรออคล่มสลาย เป็นฝืมือของมหาเทวีลูซิสที่ได้แอบเข้ามาแทรกแซงเรื่องบนโลก โดยดลบันดาลโรคระบาดและฤดูกาลที่แห้งแล้งยาวนานขึ้นมา เพื่อให้ออคอ่อนแอ และเพื่อให้เหล่า"มนุษย์"ที่ลูซิสสร้างจะได้เป็นใหญ่และเรื่องอำนาจในโลกนี้ แทนที่พวกอาณาจักรออค
ได้เข้าตีอาณาจักรออคจนแตกพ่ายไป จนต้องหนีหายไปอย่างลึกลับ
 
  
แต่ว่ากันว่าแท้จริงแล้วที่อาณาจักรออล่มสลาย เป็นฝืมือของมหาเทวีลูซิสที่ได้แอบเข้ามาแทรกแซงเรื่องบนโลก โดยดลบันดาลโรคระบาดและฤดูกาลที่แห้งแล้งยาวนานขึ้นมา
 
เพื่อให้ออคอ่อนแอ่ และให้เหล่า"มนุษย์"ที่ลูซิสสร้างจะได้เป็นใหญ่และเรื่องอำนาจในโลกนี้ แทนที่พวกอาณาจักรออค
 
  
 +
และมนุษย์ผู้นั้นก็กลายเป็นปฐมราชาของอาณาจักรมนุษย์ ต้นราชวงศ์เซราฟิม ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้สืบสายเลือดครึ่งหนึ่งจากเอลฟ์ ต่อมาอาณาจักรแห่งนี้ถูกเรียกว่า "แองเจลเลีย" และนี่เป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าแรกของมนุษย์ที่มีลูซิสอยู่เบื้องหลัง...
  
และมนุษย์ผู้นั้นก็กลายเป็นปฐมราชาคนแรกของอาณาจักรมนุษย์ ต้นราชวงศ์เซราฟิม ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผุ้สืบสายเลือดครึ่งหนึ่งจากเอลฟ์
 
ต่อมาอาณาจักรแห่งนี้ถูกเรียกว่า "แองเจลเลีย" และนี้เป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าแรกของมนุษย์ที่มีลูซิลอยู่เบื้องหลัง...
 
  
 
[[หมวดหมู่:เนื้อเรื่อง|  กำเนิดโลกและเผ่าพันธุ์ ฉบับสาวกแห่งอาทรัม]]
 
[[หมวดหมู่:เนื้อเรื่อง|  กำเนิดโลกและเผ่าพันธุ์ ฉบับสาวกแห่งอาทรัม]]

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:54, 12 กันยายน 2555

เนื้อเรื่อง

นานแสนนานมาแล้ว...

แรกเริ่มแต่เดิมทีนั้น โลกมีแต่เพียงความมืดมิดและว่างเปล่า ปราศจากสรรพสิ่งใด ไม่มีแผ่นฟ้า พื้นน้ำ หรือแม้กระทั้งแผ่นดิน เป็นแค่มวลอากาศที่ไร้ชีวิตชีวา มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส รู้สึกเบื่อต่อความว่างเปล่าและกาลเวลาอันเป็นนิรันดร์ จึงได้ชักชวนบรรดาเทพทั้งหลายซึ่งนำโดย เทพีแห่งลม เวนทัส ,เทพแห่งปฐพี เทอร์ร่าห์ และเทพีแห่งน้ำ อควา ยกเว้นแค่ องค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ผู้ที่เป็นน้องสาวฝาแฝดของมหาเทวีแห่งแสง ลูซิส และมีพลังเทียบเท่า เพียงองค์เดียวที่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย นางรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ดีอยู่แล้ว


แต่กระนั้นเทพองค์อื่นหาได้สนใจไม่ ขบวนการสร้างความวุ่นวายนำโดย มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส ซึ่งนางมีนิสัยที่ชอบสร้างสรรค์สรรพสิ่ง ไม่หยุดนิ่ง แต่ก็เหนื่อยหน่ายง่าย เรื่องมาก ต่างกับน้องสาวฝาแฝดของนาง องค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ซึ่งมีนิสัย สุขุม เยือกเย็น และไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับใคร องค์มหาเทวี ลูซิส ได้ตรัสขึ้นว่า "จงมีแสงสว่าง" ลูซิส มอบแสงสว่างให้กับโลก โดยผิดใจกันกับ มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ทุกวัน องค์มหาเทวีแห่งแสง ลูซิส จะสู้กับองค์มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม ช่วงที่ลูซิสชนะโลกจะเป็นกลางวัน ถ้าแพ้จะเป็นกลางคืน ตอนกลางคืนจะมองเห็นเศษซากที่บาดเจ็บของลูซิสส่องประกายเต็มท้องฟ้า(หมู่ดาว) เนื่องจากมหาเทวีแห่งแสง ลูซิส กับ มหาเทวีแห่งความมืด อาทรัม เป็นเทพที่เป็นอมตะจึงไม่สามารถปลิดชีพกันได้ การต่อสู้ใช้ดำเนินไปต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน จนกระทั่งวันหนึ่งที่อาทรัมนั้นเริ่มสนใจโลกที่สร้างใหม่มากขึ้น และเหนื่อยกับการสู้รบกับลูซิสผู้มีพลังเท่าเทียมกัน จึงตกลงกันว่าจะแบ่งช่วงเวลาดูแลโลกกัน โดยลูซิสจะดูแล 14 ชั่วโมง และ อาทรัมจะดูแล 10 ชั่วโมง เหล่าบรรดาเทพที่เหลือก็ได้ช่วยกันสร้างโลกให้สมบรูณ์ เทอร์ร่าห์ เนรมิตผืนดินยาวสุดลูกหูลูกตา และสร้างเหล่าพรรณพืช ต้นไม้ ใบหญ้า อควา เนรมิตผืนน้ำ และสร้างเหล่าหมู่สัตว์น้ำ เวนทัส แบ่งร่างออกเป็นสี่ เคลื่อนที่ไปสี่ทิศทางอย่างไม่รู้จบ เติมเต็มจิตวิญญาณให้กับก้อนหิน ต้นไม้ใบหญ้า อิกนัส ได้จุดไฟ เผาหลอมดิน ก้อนหินและต้นไม้ เกิดเป็นร่างของเหล่าสรรพสัตว์ โดยมีจิตวิญญาณที่เวนทัสมอบให้


แต่ลูซิสผู้รู้สึกว่าโลกยังขาดอะไรบางอย่าง โลกที่มีแผ่นฟ้า พื้นน้ำ แผ่นดิน "ถึงมันจะมีวัฎจักรของมันแต่มันก็เงียบเหงาจนเกินไป ข้ารู้สึกว่ามันไม่ต่างจากเมื่อก่อนเท่าไรนัก" จึงได้ปรึกษากับเหล่าเทพองค์อื่น ว่าควรทำอย่างไรกับโลกที่พวกเขาได้สร้างขึ้น อาทรัมจึงเสนอว่า "ด้วยพลังอำนาจและสติปัญญาของเหล่าทวยเทพอย่างพวกเรา ถ้าเราสร้างสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาขึ้นมาให้อาศัยในโลก ก็น่าจะทำให้โลกใบนี้มีอะไรน่าสนใจขึ้นมาบ้าง" เหล่าเทพทั้งสี่จึงได้สร้าง "เอลฟ์" โดยจำลองแบบมาจากพวกตนเอง และเป็นเอลฟ์ตนแรกที่ได้กำเนิดขึ้นบนโลก ซึ่งเหล่าเทพก็ได้มอบหน้าที่ให้แก่ เอลฟ์ ปกครองโลกในฐานะตัวแทนเทพ


ต่อมาเหล่าเทพทั้งสี่ก็ได้สร้าง "มังกร" ขึ้นมาโดยมีอาทรัมเป็นผู้แนะนำ "มังกร"ร่างกายที่มีผิวหนังแข็งประดุจเกราะเหล็ก ดวงตากลมโต เขี้ยวอันแหลมคมและพละกำลังอันมหาศาล แต่ลูซิสนั้นรังเกียจรูปร่างของมังกร นางจึงขับไล่พวกมังกรลงไปยังโลก โดยให้อาศัยในพื้นที่ทางเหนือที่มีอากาศหนาวเย็น การกระทำครั้งนั้นทำให้อาทรัมไม่พอใจในความเอาแต่ใจของลูซิส นางจึงได้ให้ความช่วยเหลือแก่เหล่า "มังกร" อาทรัมมอบปัญญาอันเฉลียวฉลาดให้กับพวกเขา ทำให้พวกมังกรต่างจากสัตว์ทั่วๆไป พวกเขามีจินตนาการ มีความอยาก และมีความสามารถในการสร้างสรรสิ่งใหม่ๆ เหล่ามังกรจึงเคารพนับถืออาทรัมเป็นมหาเทวีให้กำหนดเหล่ามังกร


เทพองค์อื่นเมื่อเห็นเทวีแห่งความมืดสร้างสิ่งน่าสนใจให้กับมังกรขึ้นมา ก็เลยทำตามประสงค์ของตัวเองขึ้นบ้าง เทอร์ร่าห์ เนรมิตสร้าง ชาวออค ผู้มีร่างกายแข็งแกร่งประดุจหินผา สร้างชาวสมิงผู้มีชีวิตผูกผันกับผืนดินและทุ่งหญ้า เวนทัส สร้างชาวเอล์ฟ ผู้งดงาม คล่องแคล่ว และยังได้แบ่งพลังกว่าครึ่งของนางให้กับพวกเขาเหล่านั้นด้วย อิกนัส เริ่มแรกไม่กล้าใช้พลังของตนสร้างอะไรขึ้นมา จึงได้ไปขอยืมพลังของเทวีแห่งความมืดมากึ่งนึง ให้กำเนิดเป็นกอบลินขึ้นมา แต่อิกนัสไม่พอใจกับกอบลินที่รูปร่างแคระแกร็น และมีผิวกายภายนอกอัปลักษณ์เยี่ยงมังกร เขาจึงใช้พลังของตัวเองสร้างคนแคระขึ้นมาอีก และมอบพลังแห่งไฟรวมไปถึงปัญญาแห่งการประดิษฐ์ให้กับพวกเขา แต่ อควา หามิได้สนใจในการสร้างผู้มีปัญญาใดๆ ขึ้นมาเลย ในขณะที่เทพทุกๆ องค์กำลังเพลิดเพลินกับการสร้างสิ่งมีปัญญานั้น ลูซิส ผู้เหนื่อยหน่าย นางตระเวนดูผลงานของเทพองค์ต่างๆ จดจำข้อดี ข้อเสียของแต่ละเผ่ามา และพยายามจะสร้าง ผู้สมบูรณ์แบบ ตามแบบฉบับของนางเอง นางปั้นร่างของพวกเขาขึ้นมาจากดินของเทอร์ร่าห์ มอบความสามารถแห่งการประดิษฐ์ด้วยสะเก็ดไฟแห่งอิกนัส แต่นั่นก็ทำให้พวกเขาทำได้เพียงเครื่องมือจากก้อนหินง่ายๆ นางจึงมอบจิตวิญญาณด้วยเสี้ยวหนึ่งของเวนทัส ทำให้พวกเขานั้นจำต้องดำรงวิญญาณเอาไว้ด้วยสายลม ชุบเลี้ยงพวกเขาด้วยร่างของเทพีแห่งน้ำ ทำให้พวกเขาเหล่านั้นต้องผูกพันกับสายน้ำ นางมอบปัญญาอันแหลมคมแบบที่ "มังกร" มี ด้วยพลังของเทวีแห่งความมืด และท้ายที่สุด นางทำสิ่งที่ไม่พึงทำที่สุด นางใส่ความเป็นนางเองลงในตัวพวกเขา ทำให้พวกเขานั้นมีนิสัยเหมือนกับนาง


มนุษย์ จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมา และเนื่องเพราะ ลูซิสนั้นรักสนุก นางจึงทำให้มนุษย์นั้นมีอายุสั้น เพื่อที่นางจะได้ดูมนุษย์รุ่นใหม่ที่ทำอะไรแปลกไปจากบรรพบุรุษได้ในเวลาอันแสนสั้น


เทพแต่ละองค์ ต่างอุ้มชู ประคบประหงมผลงานการสร้างของตน จนทำโลกเริ่มเสียสมดุล และบ่อยครั้งเหล่าเทพก็กระทบกระทั่งกันเอง จนท้ายที่สุด พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซงกับเรื่องต่างๆ บนโลกอีก... ในเวลานั้น เอลฟ์ เรืองอำนาจและปกครองโลกในฐานะตัวแทนเทพ จนกระทั่งเหล่ามังกรได้สร้างเสริมกำลัง ขยายอำนาจจนทั่วทวีปทางเหนือ กลายเป็นอาณาจักรขั้วอำนาจใหญ่ "ซอร์เรี่ยน" ต่อมาสองขั้วอำนาจ "เอลฟ์" ที่อยู่ทางใต้ และ "ซอร์เรี่ยน"ที่อยู่ทางเหนือ ได้ขยายอิทธิพลในโลกได้ยิ่งใหญ่ทัดเทียมกัน ได้เกิดการปะทะกัน ทำให้โลกช่วงนั้นเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ ลูซิส ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหล่าเอลฟ์ ทำให้อาทรัมไม่พอใจจนกลายเป็นสงครามระหว่างเทพทั้งสองขึ้น


สงครามดำเนินต่อเนื่องยาวนาน เนื่องด้วยเทวีทั้งสองต่างก็เป็นอมตะ จนกระทั่ง ลูซิส ได้คิดวิธีการเอาชนะ อาทรัม ได้ ในการต่อสู้ครั้งหนึ่ง ลูซิส เอาชนะ อาทรัม และได้แบ่งร่างของนางออกเป็นเจ็ดส่วน ทิ้งลงแผ่นดินและทะเล ทำให้ อาทรัม ถูกกระจายพลังออกจนคืนชีพไม่ได้ จากการปะทะของเหล่าเทพด้วยกันครั้งนี้ อควา ได้พูดกับเหล่าเทพด้วยกันว่า "ที่ตัวข้าไม่สร้างผู้ทรงปัญญาเหมือนอย่างพวกท่านทำ ก็เพราะข้าคิดไว้แล้วว่าจะเกิดการปะทะกันระหว่างเหล่าเทพ จากเหตุการณ์ครั้งนี้ข้าของให้พวกท่านเลิกยุ่งกับเผ่าพันธุ์บนโลกเสีย เพื่อเป็นการมิให้เกิดเหตุการณ์ต่อสู้ระหว่างเทพขึ้นอีก" จากคำพูดของเทวี อควา พวกเขาจึงตกลงกันว่า จะไม่เข้าไปแทรกแซงกับเรื่องต่างๆบนโลกอีก...


"ซอร์เรี่ยน" เมื่อขาดการช่วยเหลือจากอาทรัมจึงต้องถอยร่นไป แต่สงครามครั้งนั้นก็ทำให้เผ่าพันธุ์เอลฟ์เหลือจำนวนน้อยมาก เอลฟ์ตายเกือบหมดในสงคราม ส่วนที่เหลืออยู่ก็ตัดสินใจทำตัวเหมือนเหล่าเทพ หลบเร้นหนีไปยังที่ที่ไม่มีใครพบ


เมื่อขาดขั้วอำนาจใหญ่ทางใต้แล้ว ออค จึงเรืองอำนาจต่อจากเอลฟ์ ด้วยที่มีพละกำลังแข็งแกร่งกว่าใคร และมีจำนวนมาก อาณาจักรออคโบราณ จึงกำเนิดขึ้น แล้วเผ่าพันธุ์ใดๆ ที่อยู่ทางใต้ก็ตกอยู่ใต้การปกครองของ ออค ทั้งสิ้น หนึ่งในนั้นก็คือ "มนุษย์" ซึ่งตอนนั้นยังเป็นเพียงชนกลุ่มน้อยที่กระจัดกระจายกันอยู่ ซึ่งบางส่วนก็ถูกจับนำมาเป็นทาสใช้แรงงานให้แก่พวกออค


อาณาจักรออคนั้นรุ่งเรืองและขยายอิทธิพลอย่างรวดเร็ว แต่เวลารุ่งเรืองของออคก็มีเวลาไม่นานนัก เมื่อเหล่ากองทัพของ"ซอร์เรี่ยน"ที่ถอยร่นไปในสงครามครั้งก่อนได้กลับมาเข้ารุกรานอาณาจักรทางใต้อีกครั้ง ก่อนต่อสู้กินเวลายืดเยื้อยาวนาน เพราะอาณาจักรออคมีกำลังเข้มแข็งมาก ทำให้กองทัพของ"ซอร์เรี่ยน"ต้องแตกพ่ายถอยกลับไปอีกครั้ง


แต่อาณาจักรออคก็เสียหายไปไม่น้อย อีกทั้งประสบกับโรคระบาดและฤดูกาลที่แห้งแล้งยาวนาน จึงทำให้พวกออคอ่อนแอลงมาก เวลานั้นเองได้มี "มนุษย์"ผู้หนึ่งได้รวบรวมสมัครพรรคพวก จนเกิดเป็นกองกำลังปลดปล่อยอิสระภาพ ได้เข้าตีอาณาจักรออคจนแตกพ่ายไป จนต้องหนีหายไปอย่างลึกลับ แต่ว่ากันว่าแท้จริงแล้วที่อาณาจักรออคล่มสลาย เป็นฝืมือของมหาเทวีลูซิสที่ได้แอบเข้ามาแทรกแซงเรื่องบนโลก โดยดลบันดาลโรคระบาดและฤดูกาลที่แห้งแล้งยาวนานขึ้นมา เพื่อให้ออคอ่อนแอ และเพื่อให้เหล่า"มนุษย์"ที่ลูซิสสร้างจะได้เป็นใหญ่และเรื่องอำนาจในโลกนี้ แทนที่พวกอาณาจักรออค


และมนุษย์ผู้นั้นก็กลายเป็นปฐมราชาของอาณาจักรมนุษย์ ต้นราชวงศ์เซราฟิม ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้สืบสายเลือดครึ่งหนึ่งจากเอลฟ์ ต่อมาอาณาจักรแห่งนี้ถูกเรียกว่า "แองเจลเลีย" และนี่เป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าแรกของมนุษย์ที่มีลูซิสอยู่เบื้องหลัง...