<html> tags cannot be used outside of normal pages.

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เนื้อเรื่อง/บทที่ ๖ โลกอีกฟาก (East Angelia)"

จาก อสุรา เกมส์ออนไลน์ ฟอร์มยักษ์ - สารานุกรม
Jump to navigationJump to search
 
(ไม่แสดง 1 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน)
แถว 29: แถว 29:
 
*ความหวังสุดท้ายของจักรวรรดิอยู่ที่จดหมายในมือของพลทหารพอล
 
*ความหวังสุดท้ายของจักรวรรดิอยู่ที่จดหมายในมือของพลทหารพอล
  
*พลทหารพอลเดินหายเข้าไปในป่าเขตแดนของหมู่บ้านกราเทม<div style="clear:both;"></div>
+
*พลทหารพอลเดินหายเข้าไปในป่าเขตแดนของหมู่บ้านกราเทม<div style="clear:both;"></div><span style="color:white;">495</span>
<span style="color:white;">495</span>
 
 
 
 
*สองวันต่อมาที่ฟรอนเทียร์ วิลเลจมีคนเห็นพลทหารพอลเดินออกมาจากป่าพร้อมกับร่างที่โชกไปด้วยเลือด ก่อนที่พลทหารพอลจะสิ้นใจได้พูดว่า '''"อาร์ซูร่า..."'''
 
*สองวันต่อมาที่ฟรอนเทียร์ วิลเลจมีคนเห็นพลทหารพอลเดินออกมาจากป่าพร้อมกับร่างที่โชกไปด้วยเลือด ก่อนที่พลทหารพอลจะสิ้นใจได้พูดว่า '''"อาร์ซูร่า..."'''
  

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:07, 25 มีนาคม 2552

เนื้อเรื่อง
  • ข่าวด่วนล่าสุด "ซอเรี่ยน" สร้างกองทัพจำนวนนับแสนเพื่อที่จะโจมตีทวีปทางใต้อีกครั้ง
  • "ไรซ์ที่ 3" ผู้นำแห่งกองกำลังจักรวรรดิ ทราบข่าวจึงสั่งให้ "พลตรีเซอร์อเล็กซ์" จัดตั้งกองทัพเพื่อเตรียมต่อสู้กับกองทัพซอเรี่ยน
  • "ผู้พันคาร์เตอร์" แห่งป้อมเดธวอลเล่ย์ รายงานว่ากองทัพของจักรวรรดิปัจจุบันมีกองกำลังเพียงสามหมื่น หากจะต้องต่อสู้กำลังกองทัพซอเรี่ยนนับแสน คงไม่ต้องคิดก็รู้ได้โดยง่ายดายว่าผลการต่อสู้จะเป็นเช่นไร
  • ผู้พันคาร์เตอร์รับสมัครทหารเพิ่ม โดยมีข้อเสนอว่า "หากเข้าร่วมกับกองทัพของจักรวรรดิ ทางจักรวรรดิจะมีค่าตอบแทนให้"
  • ประชาชนจำนวนหนึ่งสมัครเข้าเป็นทหาร แต่จำนวนก็ยังไม่เพียงพอที่จะต่อต้านกองทัพของซอเรี่ยนได้
  • "พลเอกแมทธิว" ทหารคนสนิทของไรซ์ที่ 3 เสนอให้ไปขอความช่วยเหลือจากเมือง "ลูเซีย" ซึ่งเป็นเมืองของราชวงศ์เซราฟิมที่หลงเหลือสร้างขึ้นมาปัจจุบันปกครองโดย "ราฟาเอล" ผู้มีสายเลือดโดยตรงจาก "มิคาเอล" ผู้นำของเซราฟิมรุ่นแรก
  • ไรซ์ที่ 3 ไม่เห็นด้วยที่จะไปขอความช่วยเหลือจากเซราฟิม แต่ต้องจำใจเพราะเป็นหนทางสุดท้ายที่จะต่อต้านกับกองทัพซอเรี่ยนนับแสนได้
  • "พลทหารพอล" ได้รับหน้าที่เป็นทหารส่งสาร ให้นำจดหมายขอความช่วยเหลือไปส่งให้ราฟาเอลแห่งเมืองลูเซีย
  • จดหมายขอความช่วยเหลือไม่สามารถไปถึงมือของราฟาเอลแห่งลูเซีย เนื่องจากพอลไม่สามารถผ่านประตูกำแพงที่กั้นเขตแดนระหว่างตะวันตกและตะวันออกไปได้ เพราะมีทหารอาร์ซูร่าขวางทางเอาไว้อยู่
  • ผู้พันคาร์เตอร์เสนอว่าให้เดินทางผ่าน "ฟรอนเทียร์ วิลเลจ" และ "กราเทม" ซึ่งสองหมู่บ้านเป็นพื้นที่ชายแดนระหว่างตะวันตกและตะวันออก
  • ในอดีตผู้คนของทั้งสองหมู่บ้านรักใคร่กลมเกลียวกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อมีกำแพงขนาดใหญ่แบ่งเขตแดน ผู้คนของหมู่บ้านทั้งสองไม่พอใจเป็นอันมากจึงช่วยกันขุดอุโมงค์ลอดกำแพงขนาดใหญ่เพื่อที่จะเดินทางไปมาหาสู่กันดังเช่นแต่ก่อนตอนที่ยังไม่มีกำแพง
  • เหตุผลหลักที่ผู้คนในฟรอนเทียร์ วิลเลจขุดอุโมงค์ลอดกำแพงมาก็คือ "วิหารท้าวจตุรกร" วิหารศักดิ์สิทธิ์ซึ่งผู้คนของทั้งสองหมู่บ้านต่างเคารพนับถือกันมาตั้งแต่อดีต
  • แต่ปัจจุบัน หมู่บ้านทั้งสองไม่ได้รักกันดังเช่นอดีตอีกต่อไป หลังจากที่จักรวรรดิ มาแบ่งดินแดนฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกไม่นาน ก็เกิดมีปัญหาการแบ่งแยกเผ่าพันธุ์ และสุดท้ายก็เกิดปัญหาการแย่งชิงวิหารเท้าจตุรกร ทำให้หมู่บ้านทั้งสองทะเลาะกันตั้งแต่นั้นมา
  • ความหวังสุดท้ายของจักรวรรดิอยู่ที่จดหมายในมือของพลทหารพอล
  • พลทหารพอลเดินหายเข้าไปในป่าเขตแดนของหมู่บ้านกราเทม
    495
  • สองวันต่อมาที่ฟรอนเทียร์ วิลเลจมีคนเห็นพลทหารพอลเดินออกมาจากป่าพร้อมกับร่างที่โชกไปด้วยเลือด ก่อนที่พลทหารพอลจะสิ้นใจได้พูดว่า "อาร์ซูร่า..."
  • ผู้ใหญ่บ้านของฟรอนเทียร์ วิลเลจได้ส่งข่าวแจ้งให้กับจักรวรรดิรับรู้เกี่ยวกับการเสียชีวิตของพลทหารพอลผู้นั้น
  • ความหวังในการขอความช่วยเหลือจากลูเซียของจักรวรรดิ คงต้องหมดไป เพราะว่าทางผ่านไปยังเมืองลูเซียนั้นต้องผ่านเมืองของชนเผ่าอาร์ซูร่า
  • ไรซ์ที่ 3 จึงจำเป็นต้องเปิดเผยแก่ประชาชนทุกคนทราบเกี่ยวกับเรื่อง กองทัพนับแสนของซอเรี่ยน และ ความโหดร้ายของชนเผ่าอาร์ซูร่าที่อยู่โลกอีกฟากหลังกำแพง ขอให้ผู้ที่มีความสามารถด้านการต่อสู้ เข้าร่วมกับกองทัพจักรวรรดิเพื่อร่วมกันต่อสู้กับกองทัพซอเรี่ยนและบุกไปโจมตีชนเผ่าอาร์ซูร่าหลังกำแพง
  • เหล่าผู้กล้าจำนวนมากต่างออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อฝึกฝนตัวเองและหาทักษะใหม่ๆมารับมือกองทัพซอเรี่ยนและชนเผ่าอาร์ซูร่า
  • สถานการณ์กำลังตรึงเครียด ทุกๆเขตการปกครองของจักรวรรดิ ล้วนมีแต่ทหารของจักรวรรดิเดินลาดตระเวนตลอดเวลา
  • ประชาชนทั่วไปต่างสงสัยว่าชนเผ่าอาร์ซูร่าหน้าตาเป็นอย่างไร จักรวรรดิจึงตัดสินใจส่งจ่าอลันพร้อมด้วยพลทหารอีกสิบนายเข้าไปสืบข่าวในหมู่บ้านกราเทมและถ่ายรูปของชนเผ่าอาร์ซูร่ากลับมา
  • มีอาร์ซูร่าตนหนึ่งบังเอิญเห็นจ่าอลันและเหล่าพลทหารที่กำลังแอบถ่ายรูปชนเผ่าของตนอยู่ อาร์ซูร่าตนนั้นจึงเดินตรงเข้ามาหาจ่าอลันทันที จ่าอลันตกใจจึงเผลอพลั้งมือยิงปืนหนึ่งนัดใส่อาร์ซูร่าตนนั้น และนำทหารทั้งหมดกลับทันทีโดยไม่สนใจอาร์ซูร่าตนนั้น
  • จ่าอลันกลับมารายงานต่อสภาจักรวรรดิว่าถูกชนเผ่าอาร์ซูร่าเห็นและพยายามที่จะเข้ามาทำร้ายตน จึงป้องกันตัวด้วยการยิงปืนขู่หนึ่งนัดและรีบหนีกลับมาทันที
  • จากรูปที่ถ่ายมาได้ ชนเผ่าอาร์ซูร่ามีรูปร่างลักษณะใกล้เคียงกับเผ่ามนุษย์ แตกต่างกันแค่เพียงชนเผ่าอาร์ซูร่ามีรูปร่างสูงใหญ่กว่ามนุษย์ มีเขาสองข้างอยู่ที่ข้างหู ร่างกายแข็งแรงและมีพลังกำลังมากกว่าเผ่ามนุษย์เป็นเท่าตัว
  • จักรวรรดิได้ติดประกาศและแจกจ่ายรูปภาพของชนเผ่าอาร์ซูร่า
  • ฝั่งสภาผู้นำของอาร์ซูร่าประชุมกันเกี่ยวกับเรื่องที่เผ่ามนุษย์ลุกล้ำเขตและมาฆ่าคนของเผ่าตน
  • ผู้นำสูงสุดของสภาผู้นำอาร์ซูร่าประกาศออกมาประกาศต่อชาวอาร์ซูร่าว่า "เมื่อหนึ่งพันปีก่อนเหล่าเทพทอดทิ้งเผ่าพันธุ์ของเรา ช่วยเหลือเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่แสนอ่อนแอ ขับไล่พวกเรามายังดินแดนตะวันออกแห่งนี้ เมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนพวกมนุษย์มันสร้างกำแพงกั้นเขตแดนระหว่างเรากับมัน เมื่อหลายวันก่อนมนุษย์กลุ่มหนึ่งข้ามเขตแดนของพวกมันมาฆ่าพวกเราหนึ่งตน ความอับอาย ความโกรธแค้น ความเศร้าเสียใจที่พวกเราสั่งสมมานานนับพันปี บัดนี้ พวกเราเผ่าพันธุ์อาร์ซูร่าเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะแสดงให้พวกมนุษย์อันแสนอ่อนแอเห็นว่าพวกเราแข็งแกร่งแค่ไหน"
  • สงครามครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้น ผู้กล้าทั้งหลายจงเตรียมตัวให้พร้อมเถิด